หน้าหลัก 5 บทความ 5 หญ้าเลี้ยงม้า

หญ้าเลี้ยงม้า

21 มิ.ย., 2023 | บทความ

หญ้าเลี้ยงม้า เนื่องจากว่าต้นหญ้าที่ขึ้นกับเองตามธรรมชาตินั้นมีคุณค่าทางอาหารสัตว์ต่ำ ผลิตผลก็น้อย และก็พื้นที่ท้องทุ่งเลี้ยงสัตว์สาธารณะนับวันจะลดลงไม่พอที่จะปลดปล่อยสัตว์ไปเลี้ยงเหมือนแต่ก่อน ซึ่งสัตว์เลี้ยงจำต้องรับประทานต้นหญ้าเป็นของกินหลัก ถ้าหากท่านลงทุนปลูกต้นหญ้าประเภทดีเอาไว้ในพื้นที่ของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่นรอบๆพื้นที่หัวไร่ปลายที่นา หรือพื้นที่ว่างไม่ เพียงแค่ครั้งเดียวก็จะมีต้นหญ้าใช้สอยไปได้นับเป็นเวลาหลายปีทีเดียว

เพราะว่าเป็นแปลงต้นหญ้าคุณภาพดี ได้ผลผลิตสูงพอเพียงสำหรับเลี้ยงสัตว์ ไม่ต้องเสียเวล่ำเวลาต้อนไปเลี้ยงไกลๆอีกต่อไป ช่วยลดทุนค่าอาหารสัตว์ให้กับผู้เลี้ยงสัตว์ได้ทางหนึ่ง ซึ่งผู้เลี้ยงจะมีรายได้จากการจำหน่ายสัตว์เป็นทุกปี รวมทั้งยังมีรายได้จากการจำหน่ายมูลเป็นทุกเดือนอีกด้วย ถือว่าเป็นอาชีพที่สามารถจะช่วยประคองฐานะของครอบครัวให้รอดพ้นจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในตอนนี้

ต้นหญ้าแพงโกล่า เป็นต้นหญ้าที่แก่ยืนนับเป็นเวลาหลายปี ลักษณะต้นครึ่งหนึ่งตั้งครึ่งหนึ่งเลื้อย ขนาดลำต้นเล็ก ไม่มีขน ใบมีลักษณะเล็กเรียวและก็ยาว ปริมาณใบดกนุ่ม เหมาะสำหรับนำไปทำต้นหญ้าแห้ง หญ้าเลี้ยงม้า ทนต่อสภาพการณ์อุทกภัยขัง สามารถเติบโตได้ดิบได้ดีในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง เหมาะแก่การนำไปปลูกเอาไว้ในเขตพื้นที่ชลประทาน ยิ่งไปกว่านี้ต้นหญ้าแพงโพล่ายังมีสารอาหารชนิดโปรตีนสูงยิ่งกว่าต้นหญ้าจำพวกอื่นๆก็เลยเหมาะกับใช้เลี้ยงวัว ควาย ในรูปของต้นหญ้าสด ต้นหญ้าแห้ง หรือต้นหญ้าหมัก

นายสิทธิชัย แก้วกาญจน์ จากหน่วยงานวิจัยแล้วก็วิวัฒนาการผลิตนม สถาบันกาญจน์วาจกกสิธุระเพื่อการค้นว้าแล้วก็ปรับปรุงปศุสัตว์และก็สินค้าสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ทำการศึกษาเรียนรู้แล้วก็เสนอการสร้างและก็การใช้คุณประโยชน์จากต้นหญ้าแพงโกล่าสำหรับในการเลี้ยงสัตว์บดเอื้องไว้ดังต่อไปนี้ การปลูกต้นหญ้าแพงโกล่าหรือการผลิตท้องนาต้นหญ้า

ปลูกต้นหญ้าแพงโกล่า หญ้าเลี้ยงม้า อาหารสัตว์ตอบแทน

การปลูก ใช้ท่อนจำพวกของต้นหญ้าแพงโกล่า อัตรา 250-300 กิโลต่อไร่ พื้นที่ลุ่ม ทำเทือกแบบนาหว่านน้ำโคลนตม ปรับระดับน้ำให้สูง 10-15 เซนติเมตร หว่านท่อนประเภทของต้นหญ้าแพงโกล่าให้ทั่วแปลง แล้วนาบกดท่อนชนิดของแพงโกล่าให้จมน้ำ แช่ทิ้งเอาไว้ราวๆ 1 อาทิตย์ แล้วระบายน้ำออก พื้นที่ดอน ภายหลังไถกระพรวนแล้ว ชักร่องห่างกัน 30 เซนติเมตร ลึกราว 10 เซนติเมตร วางท่อนจำพวก 3-5 ท่อน เรียงต่อกันเป็นแนว ใช้ดินกลบน้อยรวมทั้งเหยียบให้แน่น

สามารถปลูกได้ทั้งๆที่ลุ่มและก็ที่ดอน เกษตรกรจำนวนมากนิยมนำมาปลูกในที่ลุ่มเหมือนกันกับวิธีการทำทุ่งนาข้าว โดยจะปลูกโดยการใช้ท่อนประเภทอัตรา 300 กก.ต่อไร่ ภายหลังปลูกแล้ว 8-10 วัน ต้นหญ้าจะเริ่มผลิออกและก็จะเริ่มเก็บเกี่ยวทีแรกเหมาะอายุ 60 วัน และก็ตัดคราวถัดมาทุกๆ40 วัน โดยตัดสูงจากพื้นดิน 5-10 ซม.

ต้นหญ้าแพงโกล่า เป็นต้นหญ้าอายุที่มีนับเป็นเวลาหลายปี ต้นครึ่งหนึ่งตั้งครึ่งเลื้อย ลำต้นเล็ก ไม่มีขน ใบเล็กเรียวยาว ใบดกนุ่ม ทนอุทกภัยขัง เจริญวัยดีในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง หญ้าเลี้ยงม้า เหมาะกับปลูกเอาไว้ภายในเขตชลประทาน ผลิตผลน้ำหนักแห้ง 5.0-7.0 ตัน/ไร่/ปี โปรตีน 7-11 เปอร์เซ็นต์ โดยต้นหญ้าแพงโกล่าเหมาะสมที่จะใช้เป็นของกินของ โค ควาย ม้า แพะ แกะ กระต่าย

ต้นหญ้าแห้งเป็นของกินชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับแกสบี้ เนื่องจากมีสายสัมพันธ์เส้นใยที่ต้องสำหรับแกสบี้ในเรื่องที่พวกเราหาต้นหญ้าสดมิได้ จะต้องมีต้นหญ้าแห้งให้หนูแกสบี้ไว้ขบแทนจะก่อให้หนูแกสบี้ไม่กัดแทะเล็มรับประทานขนคุ้นเคย ต้นหญ้าแห้งจำนวนมากจะเป็น Hay,ต้นหญ้า Alfafa,ต้นหญ้าทิมโมครั้ง,ต้นหญ้าออชาท,ต้นหญ้าเบอร์ไม่วด้า, ต้นหญ้าสมุนไพร,ต้นหญ้าชนิดต่างๆปัจจุบันนี้มีนำเข้าจากต่างแดนหลายชนิด

ต้นหญ้าเนเปียร์ หรือต้นหญ้าบาน่า

มีหลายสายพันธุ์ มีบ้านเกิดในแอฟริกาเขตร้อน มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เป็นต้นหญ้าอายุนับเป็นเวลาหลายปี เติบโตได้ในดินหลายอย่าง ตั้งแต่ดินร่วนซุยผสมทราย ถึงดินเหนียวที่มีการระบายน้ำออกจะดี สนองตอบต่อความอุดมสมบูรณ์ของดินและก็น้ำได้ดิบได้ดี ทนแล้งได้มากพอควร ติดเม็ดน้อย และก็มีความงอกต่ำ ก็เลยจำเป็นต้องปลูกเพาะพันธุ์ด้วยท่อนชนิด 2-3 ท่อน ต่อหลุม ระยะระหว่างหลุม 75×75 ซม.

ปักท่อนจำพวกลงดินให้เอียง 45 องศา ให้ข้อจมลงดิน 1 ข้อ แล้วเหยียบดินให้แน่น ต้นชนิดต้นหญ้าเนเปียร์ 1 ไร่ สามารถปลูกแพร่พันธุ์ในพื้นที่โดยประมาณ 20 ไร่ เป็นต้นหญ้าที่รังเกียจน้ำนอง จำต้องปลูกรอบๆที่ดอน หรือทำร่องระบายน้ำไว้ด้วย ตัดลำต้นต้นหญ้าเป็นท่อนๆให้มีข้อติดมาด้วย 2 ข้อ ต่อท่อน เอามาใส่ถุงปุ๋ยเก็บในที่ร่ม รดน้ำให้เปียก ทิ้งเอาไว้พักแรม รุ่งแจ้งนำไปปลูกเอาไว้ภายในแปลง

มีคุณค่าทางของกินเยอะขึ้นเรื่อยๆ ผู้เลี้ยงสามารถเลือกซื้อให้แกสบี้ที่พวกเรารักได้


หลายๆคนบางทีอาจมีความรู้สึกว่าของกินหลักของกระต่ายเป็น ของกินเม็ด แม้กระนั้นความเป็นจริงแล้วธรรมชาติของกระต่ายนั้นเป็นสัตว์รับประทานพืชจ้ะ ของกินหลักของกระต่ายในความเป็นจริงแล้วเป็นต้นหญ้าจ้ะ กระต่ายควรจะรับประทานต้นหญ้าเป็นของกินหลัก เนื่องจากว่าในต้นหญ้าจะมีสารอาหารต่างๆที่มีคุณประโยชน์มากมายก่ายกอง ทั้งยังเส้นใย โปรตีน และก็ แคลเซียม ช่วยสำหรับในการปรับเท่าเทียมของระบบที่ทำหน้าที่สำหรับการย่อยอาหาร

เพราะ ของกินเม็ดมีกากใยไม่พอ ทำให้กระต่ายอ้วน แต่ว่าไม่แข็งแรง การกินของกินที่มีกากใยไม่เพียงพอนอกเหนือจากที่จะทำให้ระบบภายในร่างกายไม่เท่าเทียมแล้ว ยังเป็นเหตุให้ระบบย่อยมีปัญหา จนกระทั่งกำเนิดอาการ ก้อนขนตันอยู่ในท้อง หรือที่เรียกว่า Hairball จ้ะ ต้นหญ้าที่เสนอแนะให้กระต่ายรับประทานก็มีหลายประเภท นานาประการราคาสุดแต่บิดามารดาน้องๆกระต่ายจะหามาให้ตามกำลังทรัพย์สมบัติ ดังเช่น แพงโกล่าแห้ง อัลฟาฟ่า ทิมโมธี ต้นหญ้าขนสด

ต้นหญ้าแพงโกล่า

เป็นต้นหญ้าที่มีลำต้นเล็ก รวมทั้งทนอุทกภัยขังก้าวหน้า ให้เลือกปลูกได้ในขณะที่ลุ่มรวมทั้งที่ดอน ถ้าเกิดเป็นที่ลุ่ม ให้จัดเตรียมดินแบบนาหว่านน้ำโคลนตม หว่านท่อนจำพวกแล้ว ใช้ผ้าพลาสติกทาบให้ท่อนชนิดจมลงไปในน้ำ แช่น้ำทิ้งเอาไว้ 1 อาทิตย์ แล้วปล่อยน้ำทิ้ง รากต้นหญ้าจะยึดดิน แล้วก็แตกยอดอ่อนถัดไป หากปลูกที่ดอน ให้ไถดะ จัดเตรียมดินให้รอบคอบ เลือกวันที่ดินมีความชุ่มชื้นพอดี หรือภายหลังจากฝนตก ให้หว่านท่อนประเภทให้ทั่วแปลง แล้วกระพรวนดินกลบ

ประโยชน์ที่ได้รับมาจากต้นหญ้าแพงโกล่าเป็นนำไปเป็นของกินให้กับวัว ควาย ในรูปของต้นหญ้าสด ต้นหญ้าแห้ง และก็ต้นหญ้าหมัก หรือจะปลดปล่อยให้วัว หญ้าเลี้ยงม้า ควายเข้าไปแทะเล็มเล่มต้นหญ้าในทุ่งโดยตรงก็ได้ สามารถปลูกได้ทั้งยังในฤดูแล้งและก็ฤดูฝน สำหรับเพื่อการลงทุนปลูกต้นหญ้าประเภทนี้ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มมากมาย เพราะเหตุว่าปลูกต้นหญ้าเพียงแค่ครั้งเดียวแต่ว่าสามารถเก็บเกี่ยวผลิตผลได้นานยาวนานหลายปี ทั้งเป็นต้นหญ้าที่มีความต้องการสูงในตลาดเสบียงสัตว์ มีแหล่งตลาดรับซื้อที่แน่ๆ

ต้นหญ้ารับประทานนี

มีบ้านเกิดเมืองนอนในเขตร้อนแล้วก็ครึ่งหนึ่งร้อนของทวีปแอฟริกา เป็นต้นหญ้าที่แก่ยาวนานหลายปี ลักษณะลำต้นตั้งเป็นกอสูง ราว 1.5 – 2.5 เมตร มีช่อดอกเป็นแบบ panicle ติดดอกรวมทั้งเม็ดก้าวหน้า แต่ว่าเม็ดมีความงอกต่ำมากมาย ระบบรากเป็นรากฝอย แข็งแรงทนต่อภาวะแห้ง เติบโตเจริญในที่มีปริมาณน้ำฝนทั้งปี ดินจะต้องมีการระบายน้ำดี และก็มีความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง ไม่สมควรปลดปล่อยให้สัตว์และเล็มต้นหญ้าจนมากเกินความจำเป็น ก็เลยปลูกไว้ในสวนไม้ยืนต้นหรือสวนป่าได้ สามารถปลูกเอาไว้ภายในสวนมะพร้าวได้ ได้ผลผลิตน้ำหนักแห้ง 2,000 โลต่อไร่ต่อปี

ต้นหญ้ารับประทานนีสีม่วง

เป็นต้นหญ้าที่นำเข้ามาจากประเทศไอเวอปรี่วัวสต์ ทวีปแอฟริกา แก่นับเป็นเวลาหลายปี ต้นตั้งชัน แตกกอเจริญ ใบใหญ่ นุ่ม เหมาะกับตัดให้สัตว์รับประทาน ทนร่มเงาเจริญ แพร่พันธุ์ด้วยเม็ด และก็แยกกอ ไม่ทนต่อน้ำหลากขัง มีขนาดของใบและก็ลำต้นใหญ่มากยิ่งกว่า แล้วก็สูงยิ่งกว่าต้นหญ้ารับประทานนีปกติ ใบจะมีลักษณะนุ่มกว่า สัตว์ถูกใจรับประทาน ก็เลยเป็นต้นหญ้าที่ได้รับความพอใจจากเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์มากมาย ได้ผลผลิตออกจะสูง

แล้วก็สนองตอบต่อความอุดมสมบูรณ์ของดินและก็น้ำได้ดิบได้ดี ทนต่อภาวะที่มีร่มเงาเจริญเพาะพันธุ์ได้ด้วยเม็ด ใช้เม็ดอัตรา 1-2 กิโลต่อไร่ หรือปลูกเป็นหลุม ระยะระหว่างหลุม 50 x 50 ซม. ส่วนการปลูกด้วยหน่อจำพวก ในพื้นที่ 1 ไร่ ใช้หน่อชนิดราวๆ 300-400 กก. ปลูกหลุมละ 3 ต้น ใช้ปุ๋ยรองพื้นสูตร 15-15-15 ในอัตรา 50-100 โลต่อไร่ ควรจะตัดต้นหญ้าเลี้ยงสัตว์คราวแรกข้างหลังปลูก 70 วัน แล้วก็ต่อไป ควรจะตัดทุก 30-45 วัน สำเร็จผลิต 1.5-4 ตันต่อไร่

ต้นหญ้ารูซี่

มีบ้านเกิดเมืองนอนในทวีปแอฟริกา เป็นต้นหญ้าอายุนับเป็นเวลาหลายปี ถูกใจดินที่มีการระบายน้ำดี เติบโตได้ในดินเกือบทุกประเภท ปลูกด้วยเม็ด โตเร็ว เหมาะกับปลดปล่อยโคลงและเล็ม ได้ผลผลิตน้ำหนักแห้ง 2-2.5 ตันต่อไร่ต่อปี แตกกอดี ใบนุ่มสัตว์ถูกใจรับประทาน ลักษณะลำต้นครึ่งตั้งครึ่งหนึ่งเลื้อย มีรากตามข้อ เพาะพันธุ์ได้ด้วยเม็ดรวมทั้งลำต้น เนื่องมาจากติดเม็ดเจริญ มีความงอกสูงนิยมแพร่พันธุ์ด้วยเม็ด จัดเป็นพืชวันสั้น เจริญวัยได้ดิบได้ดีในดินหลายประเภท ทั้งยังดินสมบูรณ์บริบูรณ์ในที่ดอน น้ำไม่ขัง และก็ในดินที่มีธาตุอาหารออกจะต่ำ ถูกใจอากาศในเขตร้อนที่มีปริมาณน้ำฝนมากมาย ต้นหญ้ารูซี่สนองตอบต่อปุ๋ยเจริญ ให้ปุ๋ยสูตร 12-24-12 อัตรา 25 โลต่อไร่

การใช้ผลดีจากต้นหญ้าแพงโกล่า

การใช้คุณประโยชน์จากต้นหญ้าแพงโกล่า จะสามารถนำไปเลี้ยงสัตว์ได้หลากหลายประเภท ได้แก่ โค ควาย แพะ แกะ ฯลฯ โดยการใช้คุณประโยชน์สำหรับในการเลี้ยงสัตว์จะมีอยู่ 3 ลักษณะเป็น

  • ตัดต้นหญ้าแพงโกล่าสดไปเลี้ยงสัตว์ วิธีการแบบนี้เป็นวิธีการใช้คุณประโยชน์จากแปลงต้นหญ้าแพงโกล่าที่มีคุณภาพเยอะที่สุด ควรตัดต้นหญ้าคราวแรกเมื่ออายุได้ 60 วัน และก็ตัดครั้งถัดไปทุกๆ40-45 วัน ถ้าเกิดปลูกต้นหญ้าแพงโกล่า ในพื้นที่ดอนจะสามารถตัดได้ 5 ครั้ง รวมผลิตผลต่อปีราวๆ 2-2.5 ตันต่อไร่ แล้วก็สำหรับเพื่อการปลูกต้นหญ้าแพงโกล่าในที่ลุ่มจะเห็นผลผลิตโดยประมาณ 3-5 ตันต่อไร่
  • ตัดต้นหญ้าแพงโกล่า เก็บเอาไว้ภายในลักษณะต้นหญ้าแห้ง เพื่อกักตุนไว้เลี้ยงสัตว์ในฤดูแล้ง สามารถทำเป็นทั้งยังใช้เครื่องจักรและก็ใช้แรงงานคน
  • ปลดปล่อยสัตว์เลี้ยงเข้าไปและเล็มในแปลงต้นหญ้า หญ้าเลี้ยงม้า แนวทางนี้จะสามารถทำเป็นก็เมื่อต้นหญ้าแพงโกล่าตั้งตัวและก็เติบโตสุดกำลังแล้ว เป็นต้นหญ่าสูงไม่น้อยกว่า 35 เซ็นต์ โดยสามารถปลดปล่อยสัตว์เลี้ยงเข้าไปและเล็มเป็นบางโอกาส สลับกับการพักแปลงหรือตัดปรับภาวะแลงต้นหญ้า เพราะว่าต้นหญ้าแพงโกล่าไม่สามารถที่จะทนต่อการและเล็มรวมทั้งดูถูกอย่างมากได้

ต้นหญ้าขนสด ต้นหญ้าสดเป็นของกินที่จำเป็นต้องสำหรับแกสบี้ เนื่องจากว่ามีสายสัมพันธ์เส้นใย รวมทั้งวิตามิ ต้นหญ้าขนสด ลักษณะ ต้นหญ้าขน เป็นต้นหญ้าที่มีลำต้นสีเขียวมีขนๆอยู่ตามก้านรวมทั้งใบ ตัดแม้กระนั้นยอดอ่อน เวลาบดได้ยินเสียงดังกรุบๆเลยหละ ต้นหญ้าขนสด เป็นต้นหญ้าที่หาได้ง่ายที่สุด สามารถจะไปตัดได้จากริมทาง ที่ไหนๆก็มี ควรจะตัดแต่ว่ายอดอ่อนแล้วเอามาแช่น้ำทิ้งเอาไว้ล้างให้สะอาด ควรจะให้รับประทานใหม่ๆหากตากแห้งไม่ชี้แนะด้วยเหตุว่าก้านจะแข็ง

ต้นหญ้าแพงโกล่า ค่าที่วัวรวมทั้งควายคู่ควร

ต้นหญ้าแห้งเป็นของกินชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับแกสบี้ ด้วยเหตุว่ามีสายสัมพันธ์เส้นใยที่จำเป็นจะต้องสำหรับแกสบี้ในเรื่องที่พวกเราหาต้นหญ้าสดมิได้ ควรจะมีต้นหญ้าแห้งให้หนูแกสบี้ไว้เคี้ยวแทนจะก่อให้หนูแกสบี้ไม่กัดเล็มรับประทานขนคุ้นเคย ต้นหญ้าแห้งส่วนมากจะเป็น Hay,ต้นหญ้า Alfafa,ต้นหญ้าทิมโมคราว,ต้นหญ้าออชาท,ต้นหญ้าเบอร์ไม่วด้า, ต้นหญ้าสมุนไพร,ต้นหญ้าจำพวกต่างๆขณะนี้มีนำเข้าจากต่างแดนหลายชนิด มีคุณค่าทางของกินมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้เลี้ยงสามารถเลือกซื้อให้แกสบี้ที่พวกเรารักได้

ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยบางทีอาจรู้สึกว่าของกินหลักของกระต่ายเป็น ของกินเม็ด แต่ว่าเรื่องจริงแล้วธรรมชาติของกระต่ายนั้นเป็นสัตว์รับประทานพืชจ้ะ ของกินหลักของกระต่ายที่จริงแล้วเป็นต้นหญ้าจ้ะ กระต่ายควรจะรับประทานต้นหญ้าเป็นของกินหลัก เพราะเหตุว่าในต้นหญ้าจะมีสารอาหารต่างๆที่มีคุณประโยชน์จำนวนมาก อีกทั้งเส้นใย โปรตีน แล้วก็ แคลเซียม ช่วยสำหรับในการปรับเท่ากันของระบบที่ทำการย่อยอาหาร

เนื่องจากว่า ของกินเม็ดมีกากใยน้อยเกินไป ทำให้กระต่ายอ้วน แต่ว่าไม่แข็งแรง การกินของกินที่มีกากใยน้อยเกินไปนอกเหนือจากการที่จะทำให้ระบบภายในร่างกายไม่เท่ากันแล้ว ยังมีผลให้ระบบย่อยมีปัญหา จนกระทั่งกำเนิดอาการ ก้อนขนตันอยู่ในท้อง หรือที่เรียกว่า Hairball จ้ะ ต้นหญ้าที่ชี้แนะให้กระต่ายรับประทานก็มีหลายประเภท มากมายราคาสุดแท้แต่บิดามารดาน้องๆกระต่ายจะหามาให้ตามกำลังทรัพย์สมบัติ เป็นต้นว่า แพงโกล่าแห้ง อัลฟาฟ่า ทิมโมธี ต้นหญ้าขนสด

ต้นหญ้าแพงโกล่าแห้ง

รูปแบบของต้นหญ้า เป็นต้นหญ้าที่มีลำต้นเล็ก ไม่มีขน แก่ยาวนานหลายปี ต้นครึ่งตั้งครึ่งหนึ่งเลื้อย ความยาว 40-64 ศาสนาเชนตำหนิเมตร มีข้อโดยประมาณ 7-13 ข้อ ใบมีลักษณะเรียวเล็กยาวราว 12-19 ศาสนาเชนว่ากล่าวเมตร ใบกว้าง 4 ไม่ลิเมตร ใบดกนุ่ม เมื่อแก่ลำต้นจะทอดไปตามผิวดิน มีรากรวมทั้งแตกหน่อตามข้อ เป็นต้นหญ้าที่แก่ ยาวนานหลายปี ลำต้นเล็ก ไม่มีขน ใบเล็กเรียวยาว ใบดกนุ่ม

ต้นหญ้าทิโมธีเป็นต้นหญ้าที่มีกากใยมากมายเพื่อช่วยสำหรับในการถ่ายมากมาย ทำให้ระบบการสรุปยดำเนินการด้วยความสมบูรณ์ ก็เลยเป็นที่สมควร มีกากใยเยอะแยะ โปรตีนน้อย ทำให้อ้วนเกินความจำเป็นฮามาต้าเป็นพืชเชื้อสายถั่วที่เรียกกันชินปากเกษตรกรผู้ปลูกต้นหญ้าเลี้ยงสัตว์ทั่วๆไป ชื่อเป็นทางด้านราชการของถั่วฮามาต้าเป็นถั่วเวอราโนสไตโล ถิ่นเกิดจากประเทศอเมริกากึ่งกลาง รอบๆสมุทรติดอยู่ริเบียน แต่ว่าจำพวกที่เอามาปลูกเอาไว้ภายในเมืองไทยมาจากออสเตรเลียในปี 2514 เป็นพืช 2 ฤดู สามารถปลูกได้ง่ายในดิน หลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่รวมทั้งภาวะฝนปานกลางทางภาคอีสาน

ถั่วฮามาต้าจะโตเร็วลักษณะเป็นทรงพุ่มไม้เตี้ยแตกกิ่งก้านมากมาย ติดเม็ดมากมาย เม็ดมีความงอกสูงรวมทั้งสามารถขึ้นสู้กับต้นหญ้าประจำถิ่นเจริญ โดยยิ่งไปกว่านั้นในที่โล่ง ทนต่อการและเล็มและก็การเหยียบย่ำของสัตว์ ที่สำคัญเป็นขัดขวางโรคแมลงเจริญ ถั่วฮามาต้ามีคุณค่าทางของกินสูง และไม่ปรากฎว่าเป็นพิษ สามารถใช้ถั่วฮามาต้าปลูกคละเคล้ากับต้นหญ้าได้หลากหลายประเภทเพื่อเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพของต้นหญ้าใช้สำหรับตัดหรือปลดปล่อย

จุดกำเนิดเล็กๆสำหรับเพื่อการเปลี่ยนด้วย “ต้นหญ้าแพงโกล่า”

ต้นสายปลายเหตุหนึ่งที่ทำให้เกษตรกรไทยติดหนี้ติดสินจากแนวทางการทำเกษตรเชิงคนเดียว เมื่อพวกเราทดลองคิดตามมอง พวกเราจะเห็นว่าเกษตรกรมีความทรหดอดทน มีความอุตสาหะ มีความตั้งอกตั้งใจสำหรับเพื่อการผลิต ซึ่งสิ่งที่ออกมามีจำนวนที่มาก แม้กระนั้นผู้สร้างเองกลับมีต้นทุนที่สูง ผลกำไรที่ต่ำก็เลยทำให้เกษตรกรจะต้องเป็นหนี้สิน อย่างในชุมชนตำบลก้อเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นอาชีพหลักโดยมีการเลี้ยงวัว แล้วก็ควายเป็นรายได้เสริมแม้กระนั้นเกษตรกรยังคงจะต้องซื้อต้นหญ้าฟางข้าวอัดก้อนจากนอกพื้นที่เพื่อเป็นของกินให้กับโคกเลื่องลือ

เพื่อนำโคกเลื่องลือมาขุนก่อนจะมีการขาย ทั้งที่เกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แต่ว่าสัตว์ที่เลี้ยงมิได้รับประทานข้าวโพด เนื่องจากว่าผลิตผลที่ได้มาจะขายให้แก่โรงงานทั้งหมดทั้งปวง ด้วยเหตุนี้ก็เลยมีเกษตรกรอยากเปลี่ยนแปลงพื้นที่ของตนเริ่มตั้ง 2 ไร่ ไปจนกระทั่ง 30 ไร่ สำหรับการผลิตอาหารสัตว์จากพืชชดเชยเพื่อเลี้ยงวัว แล้วก็ควายในพื้นที่ของตน รวมทั้งเพื่อลดการปลูกข้าวโพดลง เพราะเหตุว่าเกษตรกรกรุ๊ปดังกล่าวข้างต้นนั้นได้กำไรจากแนวทางการขายโคกเลื่องลือมากยิ่งกว่าแนวทางการทำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เสียอีก

จากการที่ข้าราชการอาสาสมัครมูลนิธิเกษตรรักษาสภาพแวดล้อม (เมืองไทย) ได้หาข้อมูล แล้วก็ท่อนจำพวก พบว่ามีท่อนประเภทต้นหญ้าแพงโกล่าซึ่งเป็นต้นหญ้าอายุที่มีนับเป็นเวลาหลายปี ต้นครึ่งตั้งครึ่งหนึ่งเลื้อย ลำต้นเล็ก ไม่มีขน ใบเล็กเรียวยาว ใบดกนุ่ม ทนอุทกภัยขัง เติบโตดีในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง เหมาะกับปลูกเอาไว้ภายในเขตชลประทาน ผลิตผลน้ำหนักแห้ง 5.0-7.0 ตัน/ไร่/ปี โปรตีน 7-11 เปอร์เซ็นต์

โดยต้นหญ้าแพงโกล่าเหมาะสมที่จะใช้เป็นของกินของ โค ควาย ม้า แพะ แกะ กระต่าย โดยการใช้คุณประโยชน์ ใช้เลี้ยงสัตว์ ควรจะตัดต้นหญ้าทีแรก 60 คราวหลังปลูก รวมทั้งตัดคราวถัดมาทุกๆ40 วัน โดยตัดสูงจากพื้นดิน 5-10 ซม. การปลดปล่อยสัตว์เข้าและเล็มคราวแรกควรจะปลดปล่อยเมื่อต้นหญ้าอายุ 90 วัน ต้นหญ้าแพงโกล่าเหมาะกับใช้เลี้ยงวัว ควาย ในรูปต้นหญ้าสด ต้นหญ้าแห้ง หรือต้นหญ้าหมัก เหมาะสมกับพื้นที่

ก็เลยเดินทางจากตำบลก้อเพื่อไปขอวิชาความรู้จากหน่วยงานวิจัยรวมทั้งปรับปรุงอาหารสัตว์แพร่ตามสิ่งที่มีความต้องการของเกษตรกร เพื่อเปลี่ยนแปลงการปลูกพืชเชิงคนเดียวมาเป็นการเลี้ยงสัตว์แบบไร่ทุ่งแล้วก็ระบบฟาร์ม เป็นจุดเริ่มแรกเล็กๆที่เป็นการเพิ่มช่องทางให้เกษตรกรได้มีรายได้มากขึ้น รวมทั้งยืนยงเพิ่มมากขึ้น แถมยังช่วยรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อม ลดการใช้สารเคมีอีกด้วย

ต้นหญ้าเนเปียร์ (Napier Grass) เป็นอย่างไร?

ต้นหญ้าเนเปียร์หรือ ต้นหญ้าบาน่า จัดเป็นต้นหญ้าอาหารสัตว์ที่นิยมนำมาปลูกมากมาย เนื่องด้วย ลำต้น รวมทั้งใบมีขนาดใหญ่ แล้วก็มีคุณค่างทางอาหารสัตว์สูง รวมทั้งสามารถเติบโตเร็ว ได้ผลผลิตต่อไร่สูง สามารถเก็บเกี่ยวต้นได้ตลอดทั้งปี แล้วก็เก็บเกี่ยวได้นาน 5-7 ปี ต่อการปลูก 1 ครั้ง

“ต้นหญ้าเนเปียร์” หรือต้นหญ้าบาน่า เป็นต้นหญ้าที่พวกเรารู้จักกันดีว่าเป็นพืชที่ถูกประยุกต์ใช้เป็นอาหารสัตว์ เมื่อสัตว์รับประทานเข้าไปแล้วจะก่อให้กำเนิดผลดีแก่ร่างกายและไม่เป็นพิษต่อสัตว์อีกด้วย หญ้าเลี้ยงม้า เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนิยมเอามาปลูกเพื่อใช้เป็นของกินหยาบคายเลี้ยงวัวในฟาร์มของตัวเองนั่นเอง

ต้นหญ้าเนเปียร์หรือต้นหญ้าบาน่า เป็นต้นหญ้าที่เติบโตเจริญในเขตร้อน เป็นพืชที่แก่ยาวนานหลายปี ลักษณะลำต้นเป็นกอ ตั้งชัน รวมทั้งเพาะพันธุ์ด้วยท่อนจำพวกเสมือนต้นอ้อย ต้นหญ้าเนเปียร์นั้นมีหลายสายพันธุ์ โดยต้นหญ้าเนเปียร์ปกติแล้วก็เนเปียร์ลูกผสม เมื่อโตสุดกำลังจะมีความสูงถึง 4 เมตร แต่ต้นหญ้าเนเปียร์จะมีการแตกกอมากยิ่งกว่า มีส่วนของใบมากกว่าและก็มีดอกก่อนประเภทอื่น

ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์

ราก แล้วก็ลำต้น ต้นหญ้าเนเปียร์เป็นต้นหญ้าที่มีลำต้นขนาดใหญ่ ลำต้นแตกเป็นกอ หรือแตกต้นใหม่ได้ ลำต้นมีลักษณะแข็งแรง มีลำต้นสั้นๆเล็กน้อยอยู่ใต้ดิน ลำต้นเหนือดิน มีลักษณะทรงกลม รวมทั้งตั้งชัน ขนาดลำต้น 2-2.5 ซม. สูง 2-6 เมตร ลำต้นมีลักษณะเป็นข้อข้อ โดยประมาณ 15-20 ข้อ ส่วนรากมีเฉพาะระบบรากฝอยที่แตกออกจากเหง้าเยอะๆ

ต้นหญ้าเนเปียร์หมักได้ผลผลิตต้นหญ้าเนเปียร์ที่ได้จากการนำต้นหญ้าเนเปียร์บดสดมาหมัก อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง โดยมีส่วนผสมหลายแบบจากที่อยาก อาทิเช่น หมักกับยูเรีย หมักกับกากน้ำตาล หรือ พร้อมกันทั้งคู่อย่าง ฯลฯ ทำให้ต้นหญ้าเนเปียร์มีความหยาบลดน้อยลง สัตว์เลี้ยงสามารถบด แล้วก็ได้ย่อยง่าย รวมทั้งนำสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับต้นหญ้าสดที่มิได้หมัก

ต้นหญ้าเนเปียร์บดแห้งได้ผลผลิตต้นหญ้าเนเปียร์ที่ได้จากการนำต้นหญ้าเนเปียร์บดสดมาตากแห้ง 2-3 วัน หรือมากยิ่งกว่านั้น ขึ้นกับสภาพภูมิอากาศ ทำให้ได้ต้นหญ้าเนเปียร์บดแห้ง สามารถเก็บไว้ได้นานนับเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และก็มีกลิ่นหอมสดชื่น แต่ว่าแม้อยากได้เก็บไว้ยาวนานมากขึ้นในยาวนานหลายเดือน จำเป็นต้องผ่านกรรมวิธีการตากที่ความชุ่มชื้นไม่สมควรเกินกว่า 15-20% แม้กระนั้นดังนี้

การให้ต้นหญ้าเนเปียร์บดแห้งจะก่อให้สัตว์อยากน้ำมากขึ้น เมื่อเทียบกับการให้แบบบดสดหรือแบบหมัก เพราะฉะนั้น จำเป็นต้องมั้นให้น้ำทุกๆ3-6 ชั่วโมง ในตอนการกินของกิน เดี๋ยวนี้มีการปลูกภายในลักษณะฟาร์มขนาดใหญ่เพื่อจัดจำหน่ายมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากฟาร์ที่ขายแบบบดสด

โทร. 061-565-9542
Email : black_hua_juk@hotmail.com  ตลอด24ชม.7วัน
Line ID : @jfarmshop (อย่าลืมเติม @)

https://www.facebook.com/185157998185915

https://page.line.me/jfarmshop?openQrModal=true